การแสกนใบหน้ายังจะมีต่อไปหรือไม่ IBM อาจตัดเทคโนโลยีนี้ทิ้ง

ปัจจุบันระบบจดจำใบหน้า หรือ Face Recognition มักถูกนำมาใช้ในงานที่เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยแบบเข้มงวด เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกพื้นที่อาคารสำนักงาน พื้นที่ปฏิบัติการภายในสนามบิน ใช้งานควบคู่กับกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบใบหน้าของผู้ต้องสงสัย เพื่ออ้างอิงกับฐานข้อมูลอาชญากร ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลายคนก็คุ้นเคยและมีประสบการณ์การใช้งาน Face Recognition กันมาแล้วในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Face ID ที่ใช้ปลดล็อกการเข้าใช้งานสมาร์ทโฟน การสแกนใบหน้าเพื่อการทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Face Recognition ยังคงมีข้อจำกัด เช่น ระบบไม่สามารถจับภาพหรือมีแนวโน้มแสดงผลคลาดเคลื่อนเมื่อคนผิวสีเข้มเข้าใช้งาน ซึ่งเกิดจากการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างไม่เพียงพอหรือจำกัดเพียงคนเฉพาะกลุ่ม 

“มีการทดสอบพบว่าระบบจดจำใบหน้ามีความผิดพลาดมากขึ้น ถ้าใบหน้าที่ทดสอบเป็นผู้หญิงผิวสี” จากงานวิจัยอคติในการจดจำใบหน้าของ Joy Buolamwini M.I.T. Media Lab และ Timnit Gebru ผู้นำทีมปัญญาประดิษฐ์ด้านจริยธรรมของ Google ในปี 2561

Timnit อธิบายว่า เพราะอะไรเธอจึงเชื่อว่าการจดจำใบหน้า เป็นสิ่งที่อันตรายเกินกว่าที่จะนำมาใช้ในตอนนี้

“เราพบความไม่เท่าเทียมสูงมากในระบบการจดจำใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างผู้ชายที่มีผิวจางและผู้หญิงผิวคล้ำ ลองจินตนาการดูว่าในการคัดกรองมะเร็งผิวหนังที่ต้องสังเกตความผิดปกติของผิวหนัง โดยที่เราใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ในการตรวจจับ ผลที่ได้ผิวของคนผิวคล้ำไม่แสดงผลหรือไม่ถูกตรวจจับเลยด้วยซ้ำ”

ในส่วนของ IBM ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี มีการประกาศออกมาว่าจะหยุดขายและพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบจดจำใบหน้าสำหรับ ‘การเฝ้าระวัง’ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสหรัฐฯ เผชิญกับการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจหลังจากการจับกุมจอร์จชายผิวสีอย่างรุนแรง IBM มีจดหมายถึงสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ระบุว่า ระบบ AI ที่ใช้ในการบังคับใช้กฎหมายจำเป็นต้องมีการทดสอบเพื่อความอคติ และหัวหน้าผู้บริหารของ IBM อาร์วินด์ คริชนา (Arvind Krishna) กล่าวว่า การต่อสู้เพื่อมนุษยชนเป็นเรื่องเร่งด่วน

“IBM ต่อต้านอย่างแน่วแน่ และจะไม่อภัยให้กับการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าสำหรับการสอดแนมมวลชน การทำข้อมูลทางเชื้อชาติ การละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน”

อย่างไรก็ตาม IBM จะทำอย่างที่ว่าได้หรือไม่ และเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสำหรับการใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติด้านอื่นๆ จะเปลี่ยนแปลงหรือคงเดิมกันอย่างไรบ้าง ก็ต้องติดตามกันต่อไป

credit: bangkokbiznews, creativetalk

แจ้งเตือน
เรื่องมีมิจฉาชีพแอบอ้างในการใช้ชื่อบริษัทเพื่อใช้ในการหลอกหลวง

เนื่องจากทาง บริษัท 360 อินโนเวทีฟ จํากัด ได้รับแจ้งจากบุคคลภายนอก ว่ามีผู้แอบอ้างใช้ชื่อบริษัท 360 อินโนเวทีฟ จํากัด และได้มีการส่งเอกสารข้อมูลต่างๆ ของบริษัทฯ ไปให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ (ซึ่งเอกสารดัง กล่าว เป็นข้อมูลที่บุคคลภายนอกสามารถขอได้จาก หน่วยงานต่างๆ ไม่ได้ออกมาจาก บริษัทฯ ที่เดียว) โดยวิธีการ หลอกลวงจะมีการชักชวนไปทํางานง่ายๆ ที่ได้ค่าตอบแทนสูง ซึ่งมีการโฆษณาชักชวนผ่านช่องทาง Social ต่างๆ เช่น TikTok Facebook และให้แอด Line เพื่อทํางาน เป็นการกด like กด Share รูป แล้วจะได้เงิน และ หลังจากนั้นจะเริ่มหลอกให้โอนเงิน โดยอ้างว่าจะมีค่าตอบแทนให้ในเปอร์เซ็นที่สูง

ทางบริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการการรับสมัครงานในลักษณะดังกล่าว และ ไม่มีการเรียกเก็บจากการทํางานใดๆ
ทั้งสิ้น และการทําธุระกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ จะใช้ชื่อบัญชีบริษัทฯ “บริษัท 360 อินโนเวทีฟ จํากัด” เท่านั้น ไม่มีการใช้ชื่อบุคคลธรรมดา

หากท่านถูกผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ติดต่อในลักษณะดังกล่าว หรือสร้างความเสียหาย หรือพบ ความผิดปรกติ ท่านสามารถสอบถามหรือแจ้งข้อมูลมาได้ที่ ฝ่ายกฎหมายของบริษัทฯ เพื่อที่ทางบริษัทจะเก็บ รวบรวมข้อมูลในการดําเนินคดีต่อบุคคลที่แอบอ้างต่อไป
หรือหากท่านต้องการความช่วยเหลือโปรดติดต่อเราได้ที่

ติดต่อให้ข้อมูลฝ่ายกฎหมายได้ที่นี่ : legal@360innovtive.com

Powered by